การทำงานของวงจรไอซี TTL
1. ถ้าอินพุต A และ B มีค่าเป็นลอจิก 1 ขาเบสและอิมิตเตอร์ของทรานซิสเตอร์ Q1 จะถูกรีเวิร์สไบอัส ดังนั้นจึงไม่มีกระแสอิมิตเตอร์ และส่งผลให้ Q1 ไม่ทำงาน แต่ขาเบสและคอลเล็คเตอร์จุด N จึงมีค่าเท่ากับ 0V ดังนั้นเอาต์พุต มีค่าเท่ากับลอจิก 0
2. เมื่ออินพุตตัวใดตัวหนึ่งหรือทั้งสองมีค่าเท่ากับ 0V หรือลอจิก 1 ขาเบสและอิมิตเตอร์ของ Q1 จะถูกฟอร์เวิร์ดไบอัส จึงทำให้ Q1 ทำงานแรงดันไฟฟ้าที่จุด M จึงมีค่าเท่ากับ0V จึงทำให้กระแสเบสของ Q1 ลดลงไป 0 ด้วยเหตุนี้ Q2 จึงหยุดทำงานด้วย และ Q3 จะทำงาน จึง ทำให้ได้เอาต์พุต มีค่าเป็นลอจิก 1
คุณลักษณะของไอซีตระกูล TTL
1. มีความเร็วสูงกว่า DTL
2. มีการปลอดจากสัญญาณรบกวนน้อยมาก ประมาณ 0.4 V
3. เวลาการแพร่กระจายต่อเกตโดยเฉลี่ย 9 ns
4. กำลังไฟฟ้าแพร่กระจายเฉลี่ย 10 mW
5. มีแฟนเอาต์เท่ากับ 10
6. มีแฟนอินเท่ากับ 6
ไอซีตระกูลย่อยของ TTL
ไอซีตระกูล TTL ได้แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ได้อีก ซึ่งจะมีความเร็วและกำลังไฟฟ้าที่แพร่กระจายต่างกัน ไอซีตระกูล TTL ในกลุ่มย่อยมีดังต่อไปนี้คือ
1. ตระกูล 74 L00 ตัว L คือกำลังไฟฟ้าที่ใช้งานมีค่าต่ำ มีกำลังไฟฟ้า แพร่กระจายประมาณ 1 mW ต่อเกต 1 ตัว โดยมีเวลาการแพร่กระจาย 33 ns
2. ตระกูล 74H00 ตัว H คือความเร็วในการทำงานสูง มีเวลาการ แพร่กระจาย 6 ns และมีกำลังไฟฟ้าแพร่กระจายประมาณ 23 mW ต่อเกต 1 ตัว
3. ตระกูล 74 S00 ตัว S คือ Schottky เป็นไอซีตระกูล TTL ที่มีความเร็ว สูงสุดเพราะว่ามีเวลาในการแพร่กระจายเพียง 3 ns แต่ค่ากำลังไฟฟ้าที่แพร่กระจายคือ 23 mW ต่อเกต 1 ตัว
4. ตระกูล 74LS00 เป็นไอซีตระกูล TTL ที่พัฒนาหลังสุด และเป็นไอซี Schottky TTL ที่ใช้กำลังไฟฟ้าต่ำ มีเวลาการแพร่กระจายโดยเฉลี่ยเท่ากับ 9.5 ns และมีกำลังไฟฟ้าแพร่กระจายเท่ากับ 2 mW